บุคคลที่โด่งดังในอดีตของวุฒิสภาไทย

Former Senator of Thailand

มนูญกฤต รูปขจร

พลตรี มนูญกฤต รูปขจร เดิมมีชื่อว่า “มนูญ รูปขจร” เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2478 จบการศึกษาจาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 7 หรือที่เราเรียกกันว่า จปร.7 หรือ กลุ่มยังเติร์กนั่นเอง พลตรี มนูญกฤตขึ้นเป็น ผบ.ม.พัน 4 รอ.ในปี 2516 และยังเป็นนายทหารคนสนิทของพล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ซึ่งเป็นอดีตรองผู้บัญชาการทหารบกผู้นำการรัฐประหารในช่วง มีนาคม 2520 แต่ประสพความพ่ายแพ้ ถูกถอดยศ และถูกคำสั่งตามมาตรา 21 ให้ประหารชีวิต สาเหตุที่พล.อ.ฉลาด ได้รับโทษรุนแรงแบบไม่มีการลดหย่อนก็เพราะคณะรัฐประหารของพล.อ.ฉลาด มีกำลังน้อย จึงต้องการที่จะไปยึดกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อใช้กองกำลังทหารในนั้น แต่ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ตอนนั้น

คือ พล.ต.อรุณ ทวาทสิน ขัดขืน จึงถูกพล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ต่อมาพลตรี มนูญกฤต รูปขจร และกลุ่มเพื่อนจปร. 7 ที่กำลังมีอำนาจในยุครัฐบาลของ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์เ (เจ้าของสูตรเขียวหวานใส่บรั่นดีที่โด่งดังในอดีต) ได้เป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างมากให้มีการนิรโทษกรรมกับ นายทหารที่ก่อการกบฏในปี 2520 จนได้เข้ารับราชการเหมือนเดิม

ต่อมาในช่วงเดือน เมษายน 2524 พลตรี มนูญกฤตได้ก่อรัฐประหารขึ้นมาจากสาเหตุความขัดแย้งทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน กับรัฐบาล แต่ก็ประสพกับความพ่ายแพ้โดยหนีไปอยู่ประเทศอเมริกา ความพ่ายแพ้ครั้งนี้สร้างความแค้นให้กับ
พลตรี มนูญกฤต เป็นอย่างมาก จนถึงต้องกลับจากอเมริกามาก่อรัฐประหารในช่วงเดือน กันยายน 2528 แต่ก็พ่ายแพ้ คราวนี้ พลตรี มนูญกฤตถูกถอดยศจาก “พันเอก” (ยศในช่วงนั้น) กลับมาเป็น “นาย” เป็นประชาชนธรรมดา
หลังจากการถูกถอดยศแล้ว กลุ่มเพื่อน จปร 7 หรือกลุ่มยังเติร์กที่โชคดีได้กลับเข้ารับราชการทหารก่อน ได้เจรจาเพื่อขอคืนยศให้กับพลตรี มนูญกฤต และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธก็ช่วยเจรจากับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อีกทางหนึ่ง จนมีการคืนยศทางทหารให้เป็น “พลตรี” ประจำฝ่ายเสนาธิการ กระทรวงกลาโหม

หลังจากนั้นพลตรี มนูญกฤต ได้เข้าร่วมงานทางการเมืองกับรัฐบาลของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ แต่ก็ไม่วายโดนก่อการรัฐประหารอีกครั้งจากนายทหารในกลุ่มจปร. 5 เมื่อเดือน กุมภาพันธุ์ 2534 ครั้งนี้พลตรี มนูญกฤต ต้องหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่เดือนพฤษภาคม 2535 หรือพฤษภาคมทมิฬ พลตรี มนูญกฤต จึงกลับเมืองไทยได้อีกครั้งหนึ่ง

ต่อมาในช่วงปี. 2543 พลตรี มนูญกฤต ได้ลงเลือกตั้งที่จังหวัดสระบุรี เป็นวุฒิสภา และได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนสระบุรี และได้รับเลือกให้เป็นประธานวุฒิสภาในปีนั้นเอง
ปัจจุบัน พลตรี มนูญกฤต ในวัย 70 กว่าปี พักอาศัยอยู่ที่ 106/5 ซอย สุภาพงษ์ ลาดพร้าว 35 แขวง จันทรเกษม เขต จตุจักร กรุงเทพมหานคร