ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หนึ่งในข่าวการเมืองที่มีการจับตาติดตามดูอย่างใกล้ชิดเลยก็คือ ข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเพื่อเลือกตัวแทนวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อเข้ามาทำหน้าที่สภาสูง ซึ่งตอนนั้นการคัดเลือกดูเหมือนจะเงียบไปจนคิดว่าอาจจะทำงานไม่ทัน แต่ท่านประวิตรยืนยันว่า การสรรหา ส.ว. 400 คนให้ คสช. คัดเลือกทันตามกำหนดแน่นอน
ขั้นตอนการทำงาน
ต้องย้อนกลับไปดูก่อนว่า การสรรหาร ส.ว. ในครั้งนี้มีกระบวนการสำคัญตรงที่ว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการ ส.ว. ด้วย โดยหน้าที่ของท่านในตอนนี้ก็คือ การคัดเลือกรายชื่อจากการสมัครอันมากมายให้เหลือเพียงแค่ 400 คนเท่านั้นเอง จากนั้นก็ส่งรายชื่อให้ทาง คสช. เคาะออกมาให้เหลือ 194 คน
ปริมาณคนสมัครมาก
เมื่อการคัดเลือก ส.ว. ครั้งนี้ ดูจะเงียบกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทำให้ขั้นตอนการสรรหาตัวแทน ส.ว.ในครั้งนี้ดูเงียบไป จนรู้สึกเหมือนว่าเราไม่ได้เลือก ส.ว. อยู่ การคัดเลือกผู้สมัครจากหลักพันคนให้เหลือเพียงแค่ 400 คนนั้นก็ไม่ง่ายนัก เนื่องจากคุณสมบัติผู้สมัครแต่ละคนนั้นดีกรีก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ทั้งด้านคุณวุฒิ และ วัยวุฒิ ทางด้านวิชาชีพของตนเองรวมถึงทักษะทางการเมืองด้วย
ทำทันแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ความกังวลดังกล่าวได้จบลง เมื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ออกมาบอกเองว่า ทุกอย่างเสร็จทันตามกำหนดเพื่อส่งรายชื่อต่อเนื่องไปยัง คสช. ทำหน้าที่ต่อไปอย่างแน่นอน เมื่อท่านเอ่ยปากบอกเองแบบนี้ประชาชน รวมถึงนักข่าวสายการเมือง ก็โล่งใจว่า จะไม่เกิดปัญหาหรือข้อติดขัดทางการเมืองจนทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปไม่ได้อีก
ทำทันเพราะเลือกอยู่แล้ว
แม้จะออกมายืนยันด้วยตัวเอง แต่ก็มีอีกหลายความเห็นพุ่งตรงไปยัง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าการคัดเลือกให้เหลือเพียงแค่ 400 คนนั้นเอาเข้าจริงทำเสร็จทันอยู่แล้ว เนื่องจากการคัดเลือกพวกเค้าคัดจากความเหมาะสม ความใกล้ชิด กับตัวเอง และคนอื่นในรัฐบาล และ คณะ คสช. อยู่เป็นทุนเดิม นั่นทำให้ผู้ที่ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องดังกล่าว ก็สามารถตัดไปได้เลยแบบไม่ต้องดูคุณสมบัติข้ออื่น จะบอกว่าที่ทำเป็นนิ่งเอาไว้นั่นก็คือ พวกเค้าเลือกกันเสร็จแล้ว 400 คน แต่ทำเป็นมาออกสื่อเพื่อแสดงการเคลื่อนไหวให้คนทั่วไปได้เห็นเท่านั้นเอง
ก็ต้องมาดูกันว่า รายชื่อที่ดูเหมือนจะปกปิดกันไม่ให้เห็นก่อน แล้วไปรอเปิดเผยตอนสุดท้ายเมื่อเป็น ส.ว. แล้วจะมีใครบ้างแต่เชื่อเหลือเกินว่า 400 คนในครั้งนี้จะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานครั้งนี้ของ คณะกรรมการสรรหา และ การทำหน้าที่ของ ส.ว. ในอนาคตอีกแน่นอน หากทำกันออกมาไม่ดี จะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของ ส.ว. แย่ลงไปกว่าเดิมอีก
