ประวัตินักการเมือง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

Chuvit-Kamonwisit

ถ้าใครไม่รู้จัก “ชูวิทย์” แสดงว่าคุณไม่รู้จักกับการเมืองที่แท้จริง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เป็นอดีตนักการเมืองไทยที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งนอกและในวงการ เคยเป็นหัวหน้าพรรคและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ ชูวิทย์ เป็นคนที่เกิดในฮ่องกง เป็นคนเชื้อสายจีน ครอบครัวมีอาชีพเป็นผู้นำเข้าเสื้อผ้า เขาย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตและเติบโตเยาวราช ชูวิทย์จบการศึกษามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าของธรุกิจมากมาย แต่ที่พูดถึงกันมากที่สุดคือ “วิคทอเรีย ซีเคร็ท” เป็นอาบอบนวด 1 ใน 6 แห่งของ “เดวิสกรุ๊ป”

ชูวิทย์เคยให้การสนับสนุนตำรวจอยู่เสมอในอดีต เขาเป็นผู้ออกทุนในการสร้างป้อมยามที่อยู่ตามสี่แยกไฟแดง จนกระทั่งเริ่มมีปัญหาขัดแย้งเกิดขึ้น เขาจึงเลิกที่จะสนับสนุนตำรวจอีกต่อไป และยังโจมตีตำรวจว่ารับส่วยอีกด้วย ทำให้เขาได้ฉายาว่า “จอมแฉ” นับจากนั้นเป็นต้นมาก็กลายเป็นเป้าโจมตีของหลายฝ่าย มีผู้กล่าวหาว่าเขาค้าประเวณีเด็กต่ำกว่า 18 แต่โชคดีที่เขาเอาตัวรอดมาได้เพราะไม่มีหลักฐานชี้ชัด แต่ไม่นานก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้ เมื่อชูวิทย์ไปบุกทำลายบาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ต่อมาได้พบว่าเป็นข่าวหายตัวไปอย่างปริศนา ก่อนที่จะโผล่มาอยู่ข้างถนนในสภาพที่อ่อนเพลีย ซึ่งเขาให้การว่าถูกผู้มีอิทธิพล (ตำรวจ) กลุ่มหนึ่งจับตัวไป

เดินหน้าสู่อาชีพนักการเมืองเต็มตัว

หลังจากเรื่องมากมายที่เกิดขึ้น ทำให้ชูวิทย์ตัดสินใจหันมาเล่นการเมืองอย่างจริงจัง ด้วยการขายหุ้นอาบอบนวดมาเป็นทุนลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร น่าเสียดายที่อาชีพการเมืองของเขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จอย่างที่ใจหวัง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ชนะการเลือกตั้ง แต่การทำงานในฐานะฝ่ายค้านของเขามีความโดดเด่นอย่างมาก ทำใด้รับตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร เขาเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง” ในเรื่องโครงการก่อสร้างโรงพัก ที่เริ่มก่อสร้างไปแล้วทั่วประเทศ โดยมีกำหนดส่งมอบในอีก 1 เดือน แต่โรงพักส่วนใหญ่ยังไม่เสร็จ ทำให้ทั้งคู่ต้องออกมาตอบโต้กันอย่างหนักจนหลายคอนมอบฉายาให้ทั้งสองว่า “คู่กัดแห่งปี”

ต่อมาในช่วงเหตุการณ์ประท้วงขับไล่รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชูวิทย์แนะให้พรรคประชาธิปัตย์ลาออกจากสภาผู้แทนราษฎร แล้วให้ไปสนับสนุนประชาชนเพื่อเป็นแกนนำหลักในการขับไล่รัฐบาล หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ลาออกกันยกพก ทำให้ชูวิทย์ลากันด้วยเช่นกัน เพราะก่อนหน้าที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะลาออกตามถ้าหากประชาธิปัตย์ทำตามที่คำแนะนำของตน